การผ่าตัดยกกระชับต้นขา เป็นหนึ่งในหัตถการที่คนไข้เริ่มให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ไม่ต้องเจอกับคำบูลลี่ต่าง ๆ นา ๆ อย่างขาใหญ่ หรือขาเบียดได้ แต่เพราะการสะสมของเซลลูไลท์จำนวนมาก จึงทำให้เป็นจุดที่แก้ไขได้ค่อนข้างยาก ในบทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างมากก่อนตัดสินใจผ่าตัดนั่นเอง
การผ่าตัดยกกระชับต้นขาคืออะไร
การผ่าตัดยกกระชับต้นขา (Thigh Lift) สามารถทำได้หลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ และการพิจารณาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยจะมีการผ่าตัดยกกระชับต้นขาด้านนอก และด้านใน แต่เนื่องจากคนไทยนั้นมีไม่ชอบให้เห็นรอยแผลเป็น แพทย์ส่วนมากจึงแนะนำการผ่าตัดต้นขาด้านในนั่นเองครับ
สำหรับคนไข้ที่เลือกกรณีการผ่าตัดบริเวณต้นขาด้านใน แพทย์จะทำการผ่าตัดไขมัน และเนื้อส่วนเกินที่หย่อนยานออกมา ก่อนทำการเย็บปิดแผลจากด้านใน ตั้งแต่ขาหนีบไปจนถึงบริเวณเหนือเข่า จะทำให้ได้รูปทรงที่ดูกระชับพอดีกับรูปร่างของคนไข้ครับ
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องยกกระชับต้นขา มักเกิดจากการสะสมของไขมันเป็นระยะเวลานาน จนทำให้ต้นขาด้านในโตขึ้น จนส่งผลทำให้มีการเสียดสีกันขณะเดิน หรือออกำลังกายครับ
ใครบ้างที่เหมาะกับการศัลยกรรมต้นขา
การศัลยกรรมยกกระชับต้นขานั้น อาจมีความจำเป็นเฉพาะคนบางกลุ่ม ที่ต้องการแก้ไขปัญหาแบบถาวร ไม่กลับมาเป็นซ้ำเดิม หรือส่งผลต่อการใช้ชีวิตในระยะยาว ซึ่งคนไข้กลุ่มดังกล่าวมีดังนี้
- คนไข้ที่มีปัญหาไขมันสะสมด้านในต้นขาเป็นจำนวนมาก จนทำให้ผิวหนังหย่อนยานจนสังเกตเห็นได้ชัด
- คนไข้ที่มีปัญหาการเสียดสีกันของขาระหว่างเดิน จะสามารถส่งผลในระยะยาวได้เช่น ต้นขาดำคล้ำ เกิดแผลแสบร้อนจากการเสียดสี
- รูปทรงบริเวณต้นขาหย่อนคล้อยไม่กระชับ และมีขนาดของต้นขาไม่เท่ากัน
- คนไข้ที่น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วในระยะเวลาสั้น อาจส่งผลให้ผิวหนังของร่างกายบางส่วนเกิดความหย่อนคล้อย จะสามารถผ่าตัดยกกระชับต้นขาได้
4 เทคนิคยกกระชับต้นขาง่ายๆได้ด้วยตนเอง
การลด หรือยกกระชับต้นขาให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน และยั่งยืนมีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ตั้งแต่เห็นผลช้าไปจนถึงเห็นผลได้รวดเร็ว โดยวันนี้ผมจะขอมานำเสนอเกี่ยวกับเทคนิคต่าง ๆ ที่ทำให้ได้ต้นขารูปร่างใหม่ที่ถูกใจคนไข้อย่างแน่นอนดังนี้
- การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดขนาดต้นขาได้เป็นอย่างดี โดยการเน้นไปบริเวณกล้ามเนื้อต้นขา อย่างเช่น การเดิน, การวิ่ง หรือการเล่นกีฬาต่าง ๆ ที่ใช้กำลังขาเป็นหลัก
นอกจากจะได้ต้นขาเรียวกระชับตามความต้องการแล้ว คนไข้ยังได้เรื่องของสุขภาพควบคู่ไปอีกด้วย เพราะการออกกำลังกายนั้นจะช่วยส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญ จึงทำให้ลดต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองครับ
- การปรับพฤติกรรม
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ สำหรับการลดต้นขาได้เช่นกัน ยกตัวอย่างการนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ หากไม่มีการขยับตัว เหยียดร่างกาย หรือลุกเคลื่อนไหวเลย อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันได้ง่ายกว่าปกติ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสที่จะอ้วนลงพุงได้อีกด้วยครับ
- การรับประทานอาหาร
การรับประทานอาหารในปรมิาณที่พอดีต่อความต้องการของร่างกาย ถือว่าเป็นปัจจัยหลักเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากรับปริมาณไขมันสูงมากเกินไป และไม่ได้ทำการเผาผลาญออกไปก็อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกินบริเวณต่าง ๆ ได้จำนวนมาก ฉะนั้นการรับประทานประเภทโปรตีนสูง จะสามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อ และลดการสะสมของไขมันได้เป็นอย่างดี หากทำควบคู่กับการออกกำลังกาย ก็จะยิ่งทำให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน
- การทำหัตถการต่าง ๆ
การทำหัตถการนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ตามความเหมาะสมของคนไข้ ไม่ว่าจะเป็น การดูดไขมันลดสัดส่วน รวมไปถึงการรผ่าตัดยกกระชับต้นขา แต่คนไข้จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูล หรืออาจเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงก็ได้ครับ ซึ่งการทำหัตถการนั้นจะช่วยทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์หลังทำทันที อีกทั้งยังสามารถมีผลอยู่ได้อย่างถาวรอีกด้วย
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดยกกระชับต้นขา
- งดรับประทานยาต้านการอักเสบ (NSAID) เช่น แอสไพริน และอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อยประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- แนะนำให้คนไข้ลางาน ประมาณ 3 – 7 วัน เพื่อให้แผลได้เกิดการซ่อมแซมตัวเอง และมีเวลาในการพักฟื้นหลังผ่าตัด
- คนไข้ควรตรวจเช็คสุขภาพ หรือโรคต่าง ๆ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงระหว่างเข้ารับการผ่าตัด
- แนะนำคนไข้ให้งดการรับประทานน้ำ และอาหารอย่างน้อย 6 – 8 ชั่วโมง ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากวิสัญญีแพทย์จะทำการวางยาสลบในขั้นตอนการผ่าตัด หากรับประทานอาหารมาอาจส่งผลทำให้มีอาการสำลักได้
- หากคนไข้มีโรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ ความดันต่ำ / สูง ควรแจ้งให้แพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดทุกครั้ง เพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงต่าง ๆ ระหว่างผ่าตัด
- ควรงดสูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ เพื่อป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดเลือดมาเลี้ยง ซึ่งอาจส่งผลให้เนื้อเยื่อตายได้
วิธีดูแลหลังผ่าตัดยกกระชับต้นขา
- ในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัดต้นขาแนะนำว่าไม่ควร ให้แผลผ่าตัดโดนน้ำ หากรู้สึกไม่สบายตัว หรือมีอาการคัน อาจใช้แป้งทารอบ ๆ ทดแทนได้ แต่ระวังอย่าให้โดนแผลโดยตรงนะครับ
- แนะนำให้คนไข้ทำการพักฟื้นที่สถานพยาบาลอย่างน้อย 1 – 2 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด
- ควรรับประทานยาปฏิชีวนะตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการบวม หรือติดเชื้อได้ครับ
- แนะนำให้ใส่ชุดรัดรูปสำหรับการผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยลดอาการบวม และรอยช้ำที่เกิดจากการผ่าตัด
- ควรงดการสูบบุหรี่ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างน้อย 5 – 7 วันหลังการผ่าตัด เนื่องจากอาจทำให้แผลหายได้ช้า และติดเชื้อได้ง่าย
- คนไข้ควรงดการออกกำลังกายที่ใช้ขาอย่างน้อย 2 – 3 เดือนหลังการผ่าตัด แต่สามารถเดิน และพักผ่อนได้ตามปกติ
- งดการมีเพศสัมพันธ์ หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ส่งผลทำให้เลือดสูบฉีดอย่างน้อย 1 เดือนจนกว่าแผลจะปิดสนิท
- หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณแผลผ่าตัด เนื่องจากมชอาจส่งผลทำให้แผลฉีดขาดจนเลือดไหลไม่หยุดได้